ข้อเท็จจริงโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ 2012 (MERS-CoV)
1. สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ 2012 โดยองค์การอนามัยโลก ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2558 พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อฯ แล้วจำนวน 1,154 ราย เสียชีวิต 431 ราย จาก 25 ประเทศ
2. ประเทศที่มีรายงานในช่วงเดือนพฤษภาคม 2558 จำนวน 5 ประเทศ คือ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิหร่าน กาตาร์ เกาหลีใต้ และจีน
3. เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ 2012 ทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลันและรุนแรง
4. อาการที่พบ เช่น ไข้สูง ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อย เป็นต้น ติดต่อโดยการไอจามรดกัน
5. ประเทศไทย มีความเสี่ยงเนื่องจากมีชาวไทยเดินทางไปประเทศแถบตะวันออกกลาง เช่น ประกอบพิธีทางศาสนา ทำงาน ท่องเที่ยว และทำธุรกิจ เป็นต้น
6. ขณะนี้องค์การอนามัยโลกยังไม่มีข้อห้ามในการเดินทางไปยังประเทศที่พบผู้ป่วย
7. ประชาชนที่เดินทางไปประเทศแถบตะวันออกกลาง ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค ได้แก่
7.1 ผู้มีโรคประจำตัว ควรสวมหน้ากากป้องกันโรค เมื่อเข้าไปในสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันมากๆ หลีกเลี่ยงการเยี่ยมชมฟาร์มสัตว์/ ตลาด หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยผู้ที่มีอาการไอหรือจาม หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์โดยเฉพาะอย่างยิ่งอูฐ และหลีกเลี่ยงดื่มนมอูฐดิบ
7.2 คำแนะนำประชาชนทั่วไป คือ กินสุกร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือฟอกสบู่บ่อยๆ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ป่วย
7.3 หากมีอาการป่วย เช่น ไข้สูง ไอ มีน้ำมูก ขอให้ใส่หน้ากากป้องกันโรค และพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ถ้าอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วันให้รีบไปพบแพทย์ พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางไปต่างประเทศด้วย ในผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไตวาย โรคปอดเรื้อรัง และผู้ที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำ ขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที ไม่ต้องรอถึง 2 วัน เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
8. ประชาชนโทรสามารถสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ เว็บไซต์สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ http://beid.ddc.moph.go.th หรือที่สำนักงานแรงงาน ณ กรุงอาบูดาบี โทร +9712557 6833 +957 2557 6844 หรืออีเมล poonsakp@hotmail.com
ฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี