Skip to main content

หน้าหลัก

กฏหมายแรงงาน

สรุปสาระกฎหมายแรงงานฉบับใหม่ของยูเออี (ฉบับที่ 33 ปี 2021)

            พระราชกฤษฎีกาของรัฐบาลกลางฉบับที่ 33 ปี 2021 ที่เกี่ยวข้องกับระเบียบข้อบังคับด้านแรงงานสัมพันธ์ (กฎหมายแรงงานยูเออีฉบับใหม่) จะมีผลตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2022 ซึ่งถือว่าเป็นการแก้ไขกฎหมายครั้งสำคัญนับตั้งแต่มีการออกกฎหมายแรงงานฉบับแรกเมื่อปี ค.ศ. 1980.กฎหมายแรงงานยูเออี     ฉบับใหม่ มุ่งเน้นที่จะปรับปรุงระเบียบเพื่อใช้ให้เหมาะสมกับงานที่มีความแตกต่างกัน เช่น งานชั่วคราว         และงาน Part – time ฯลฯ การคุ้มครองลูกจ้างให้ครอบคลุมมากขึ้น และเพิ่มความยืดหยุ่นในสถานที่ทำงาน

          กระทรวงพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และส่งเสริมการจ้างงาน (MOHRE) ระบุว่ากฎหมายแรงงานยูเออี   ฉบับใหม่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วท่ามกลางความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในโลกของ Covid -19 ปัจจุบัน MOHREกำลังทำเกี่ยวกับกฎ ระเบียบเชิงบริหารที่จะกำกับดูแลการปฎิบัติตามกฎหมายแรงงานยูเออีฉบับใหม่

          การแก้ไขกฎหมายแรงงานยูเออีฉบับใหม่ที่สำคัญ ได้แก่

  • สัญญาจ้างงาน 3 ปี ซึ่งเป็นสัญญาแบบกำหนดตายตัว ซึ่งไม่เกิน 3 ปี และสามารถจะต่อสัญญา

เท่าเดิมหรือน้อยกว่า สำหรับสัญญาแบบไม่กำหนดระยะเวลายังคงมีเช่นเดิม (เช่นกฎหมายฉบับที่ 8 ปี 1980 ) ยังมีผลบังคับใช้แต่จะต้องเปลี่ยนสัญญาจาก Unlimited เป็น limited ภายใน 1 ปี หากมีการใช้กฎหมายแรงงานใหม่ ดังนั้น สัญญาจ้างจะต้องถูกแก้ไข ปรับปรุง เพื่อที่จะใช้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2023

  • ไม่อนุญาตให้ไปทำงานที่เป็นคู่แข่งของนายจ้างจะถูกกำหนดไว้โดยนายจ้าง ในกฎหมายแรงงาน

ยูเออีฉบับใหม่

  • ระบุระยะเลาทำงานของงานต่างๆ รวมถึงงานเต็มเวลา งานพาร์ทไทม์ งานชั่วคราว และ

งานยืดหยุ่น ซึ่งปัจจุบันกำหนดให้ทำงาน 48 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์ เป็น 40 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์

  • การยกเว้นค่าธรรมเนียมในการพิจารณาคดีมากกว่า 100,000 ดีแรห์ม เพื่อบรรเทาทุกข์ให้แก่

ลูกจ้างที่ร้องขอในการดำเนินคดีในทุกขั้นตอน

  • การป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศ นายจ้างไม่สามารถบังคับลูกจ้างด้วยวิธีการใดๆ เพื่อที่จะเกิด

การล่วงละเมิดทางเพศ ห้ามมิให้มีการกลั่นแกล้ง หรือล่วงละเมิดทางเพศ หรือใช้ความรุนแรงทางวาจา ร่างกาย หรือจิตใจ โดยหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน การเลือกปฎิบัติบนพื้นฐานเชื้อชาติ สีผิว ศาสนา สัญชาติ หรือ     ความพิการ โดยเฉพาะผู้หญิงในที่ทำงาน

  • การจ่ายค่าจ้างที่เท่าเทียมกันสำหรับเพศชายและหญิงหากมีการทำงานเดียวกันหรือหน้าที่เดียวกัน

นายจ้างจะต้องรับผิดชอบค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการจัดหางานและการจ้างงานและจะไม่เรียกคืน       จากลูกจ้างทั้งทางตรงและทางอ้อม

  • ห้ามมิให้พนักงานทำงานเกิน 5 ชั่วโมงติดต่อกันโดยไม่มีการพักอย่างน้อย 1 ชั่วโมง และอนุญาตให้

ทำงานล่วงเวลาได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง หากลักษณะของงานต้องใช้เวลาทำงานล่วงเวลาเกินกว่า 2 ชั่วโมง พนักงานต้องได้รับค่าล่วงเวลาเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 หากมีเงื่อนไขกำหนดให้พนักงานทำงานล่วงเวลาระหว่าง 22.00 น. ถึง 4.00 น. จะได้ค่าล่วงเวลาเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 ยกเว้นการทำงานเป็นกะ ถ้าลูกจ้างขอให้ทำงานในวันหยุด พวกเขาจะได้วันหยุดชดเชย 1 วัน หรือค่าล่วงเวลาเพิ่มขึ้นร้อยละ 50

  • ลูกจ้างมีสิทธิได้รับวันหยุดอาทิตย์ละ 1 วัน หรืออาจจะมีการเพิ่มวันหยุดประจำสัปดาห์ได้

ทั้งนี้แล้วแต่ดุลยพินิจของนายจ้าง

  • ภาคเอกชนขยายการลาคลอดบุตรเป็น 60 วัน โดยได้รับค่าจ้างเต็มจำนวน 45 วัน และได้รับ

ค่าจ้างครึ่งหนึ่ง 15 วัน และลูกจ้างอาจจะลาเพิ่มได้อีก 45 วัน หากมีภาวะแทรกซ้อนหลังคลอด โดยไม่ได้รับค่าจ้าง หากลาครบแล้ว 60 วัน

  • การลาเพื่อไว้ทุกข์ สามารถลาได้ 3 – 5 วัน แล้วแต่ระดับเครือญาติของผู้เสียชีวิต
  • การลาหยุดเรียนปีละ 10 วัน โดยจะต้องลงทะเบียนเรียนกับสถาบันที่ได้รับการรับรองในยูเออี

และต้องทำงานกับนายจ้างอย่างน้อย 2 ปี

  • การจ่ายเงินสิทธิประโยชน์ในการเลิกจ้างคำนวณจาก Basic Salary เท่านั้น
  • นายจ้างจะต้องจ่ายเงินภายใน 14 วัน หลังจากที่มีการเลิกจ้างลูกจ้าง
  • การบอกกล่าวล่วงหน้าสูงสุด 3 เดือน รวมถึงผู้บริหารระดับสูงซึ่งเดิมต้องแจ้งล่วงหน้า 6 – 12

เดือน แต่ขั้นต่ำของการบอกกล่าวล่วงหน้ายังอยู่ที่ 30 วัน

  • ลูกจ้างมีสิทธิลาหยุดได้อาทิตย์ละ 1 วันเพื่อหางานใหม่ ในช่วงเวลาที่นายจ้างบอกกล่าวล่วงหน้าที่

จะยุติการจ้าง

  • ลูกจ้างสามารถจะลาออกจากงานโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบหากนายจ้างละเมิดสัญญาและไม่สามารถ

แก้ไขปัญหาได้ภายใน 14 วัน นับตั้งแต่ลูกจ้างแจ้งให้ Mohre ทราบถึงการละเมิดดังกล่าว และในเคสที่มีการล่วงละเมิดและมีความรุนแรงลูกจ้างจะต้องแจ้งให้ Mohre ทราบภายใน 5 วันทำการ

  • ลูกจ้างอาจจะบอกยกเลิกสัญญาในช่วงทดลองงานโดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างน้อย 1 เดือน
  • หากลูกจ้างต้องการเปลี่ยนไปทำงานกับนายจ้างรายใหม่ที่อยู่ในยูเออี โดยกฎหมายแรงงานยูเออี

ฉบับใหม่กำหนดให้นายจ้างรายใหม่ ต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับนายจ้างรายเดิม /หากลูกจ้างต้องการเดินทางออกนอกประเทศในช่วงทดลองงานจะต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างน้อย   14 วัน ในกรณีดังกล่าวหากลูกจ้างกลับมาทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ยูเออีและได้รับวีซ่าทำงานภายใน 3 เดือนหลังจากที่เดินทางกลับ นายจ้าง     รายใหม่จะต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับนายจ้างรายเดิม

  • นายจ้างต้องบอกเลิกสัญญาจ้างแก่ลูกจ้างในช่วงทดลองงานโดยต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้

ทราบเป็นเวลา 14 วัน

  • หากนายจ้างทำผิดกฎหมายการจ้างงานฉบับใหม่จะถูกปรับสูงถึง 1,000,000 ดีแรห์ม และอาจจะ

ถูกปรับเพิ่มขึ้นหากมีลูกจ้างได้รับผลกระทบมากกว่า 1 คน

*****************************************************************

 

สรุปข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการจ้างงานในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสังเขป ดังนี้

 


2345
TOP