Skip to main content

หน้าหลัก

ยูเออีปรับปรุงกฎหมายแรงงานมีผลบังคับใช้ปี 2559

         กฎหมายใหม่ซึ่งประกาศใช้อย่างเป็นทางการเมื่อ 1 มกราคม 2559 เป็นผลมาจากจำนวนปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างนายจ้างและลูกจ้างในอดีตที่ผ่านเพิ่มมากขึ้น

         กฎหมายใหม่มุ่งที่ลดความตึงเครียดและสร้างความชัดเจนและเสริมสร้างให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงานสาระสำคัญ 3 ประการของกฎหมายการจ้างงานที่มีการเปลี่ยนแปลงคือ 1) การออกใบอนุญาตถิ่นที่อยู่ให้แก่คนงานใหม่ที่ได้รับการว่าจ้าง 2) สัญญาจ้างคนงานจากประเทศต้นทาง และ3) การยกเลิกสัญญาจ้าง

         วีซ่าใหม่

         ลูกจ้างจำนวนมากในยูเออีต้องขวนขวายเพื่อให้ได้รับใบอนุญาตทำงาน  ซึ่งการขอใบอนุญาตทำงานให้ลูกจ้างโดยทั่วไปขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนายจ้าง

         ปี 2559 : กฎหมายใหม่กำหนดให้นายจ้างจะต้องขอวีซ่าใหม่ ซึ่งหมายรวมถึงกรณีต่อไปนี้ เมื่อระยะเวลาสัญญาจ้างหมดอายุแล้วและไม่ได้รับการต่ออายุ,  สัญญาจ้างที่มีระยะเวลา 6 เดือนสิ้นสุดลงแล้ว,  นายจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย/เงื่อนไขตามสัญญาจ้าง, เมื่อธุรกิจหยุดชะงักและนายจ้างไม่มีงานให้ลูกจ้างทำ, เมื่อลูกจ้างถูกเลิกจ้างโดยไม่มีเหตุผล (โดยสันนิษฐานว่าทำงานมาแล้ว 6 เดือน), เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าและหรือจ่ายค่าชดเชยให้อีกฝ่ายหนึ่งและเมื่อลูกจ้างที่ได้ยื่นคำร้องต่อกระทรวงและลูกจ้างเป็นฝ่ายถูกต้อง,ลูกจ้างถูกยกเลิกสัญญาหรือได้รับค่าชดเชย

         คนงานที่มีการศึกษาสูงกว่าระดับมัธยมศึกษาไม่จำเป็นต้องทำงานให้ครบ 6 เดือนก่อนเพื่อที่จะได้ใบอนุญาตทำงานใหม่  กฎหมายนี้ลดอุปสรรคที่คนงานมักจะประสบในการได้รับใบอนุญาตทำงานใหม่และช่วยให้คนงานสามารถได้รับใบอนุญาตทำงานได้ง่ายขึ้น โดยที่นายจ้างไม่จำเป็นต้องใช้ดุลยพินิจแต่ให้กระทรวงแรงงานเป็นผู้พิจารณาแทนเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความเป็นธรรม

        สัญญาจ้างมาตรฐาน

        ก่อนหน้านี้เมื่อลูกจ้างได้รับการว่าจ้าง ข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ลูกจ้างจะได้รับอาจแตกต่างไปจากสัญญาจ้างที่ได้ลงนามไว้ก่อนการเริ่มงาน ซึ่งเมื่อคนงานได้รับการว่าจ้างและกำลังจะเริ่มต้นงานใหม่  จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในสัญญาจ้างและในทุกกรณีหากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงต่างๆ ก็จะถูกมองข้ามไป (ไม่ได้รับการยอมรับ)

        กฎหมายใหม่กำหนดให้ต้องระบุเนื้อหาในสัญญาจ้างให้ละเอียดครบถ้วนเพื่อให้ลูกจ้างได้ทบทวนก่อนลงนาม รวมถึงหน้าที่และความรับผิดชอบของลูกจ้างในการทำงาน  หนังสือแสดงความจำนงการจ้างงานและสัญญาจ้างต้องมีระยะเวลาและเงื่อนไขที่ตรงกัน ดังนั้น ลูกจ้างก็จะสามารถเข้าใจบทบาทหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบ

        ข้อเสนอการจ้างงาน/สัญญาจ้างต้องได้รับการยินยอมจากลูกจ้างและนำไปยื่นต่อกระทรวงแรงงานก่อนจึงจะสามารถได้รับอนุญาตให้เข้าเมือง  การแก้ไข เปลี่ยนแปลงใดๆในสัญญาจ้างต้องได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงแรงงานก่อน  การปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกจ้างว่าข้อตกลงและเงื่อนไขจะไม่ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพียงฝ่ายเดียวเหมือนเช่นผ่านมาโดยไม่ได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง

        การเปลี่ยนแปลงกฎหมายใหม่นี้ยังใช้บังคับกับผู้ที่อาศัยอยู่ในยูเออีและกำลังจะเริ่มต้นงานใหม่ด้วย  เพื่อให้มั่นใจว่าคนงานใหม่จะไม่ย้ายงานเหตุจากสัญญาจ้างที่ผิดไปจากเดิม

        การยกเลิกสัญญาจ้าง

        ในตอนท้ายกำหนดให้เผยแพร่บทบัญญัติเกี่ยวกับการเลิกจ้างที่มีการเปลี่ยนแปลงให้นายจ้างและลูกจ้างได้รับทราบอย่างสอดคล้องต้องกัน  และไม่ว่าจะเป็นสัญญาจ้างแบบกำหนดระยะเวลาหรือไม่กำหนดระยะเวลา เหตุแห่งการยกเลิกสัญญาสามารถเกิดขึ้นได้ดังนี้

       1) ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจแจ้งให้ อีกฝ่ายทราบล่วงหน้าเป็นระยะเวลาหนึ่งถึงสามเดือนก่อนการตัดสินใจที่จะบอกเลิกสัญญาทั้งในกรณีสัญญาระบุหรือไม่ระบุระยะเวลาจ้าง  

       2) ทั้งสองฝ่ายอาจยินยอมร่วมกันในการยกเลิกสัญญาจ้าง นอกจากนี้ บางครั้งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการยกเลิกสัญญาจ้าง ในกรณีเช่นนี้ ฝ่ายที่ยกเลิกสัญญาจ้างต้องเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆที่จะเกิดขึ้นภายใต้กฎหมายใหม่ ตามที่ตกลงกันไว้

       ข้อยกเว้นนี้ (ยกเว้นการชดใช้ค่าเสียหาย) ระบุไว้ในมาตรา 120 ในกรณีที่นายจ้างหรือลูกจ้างมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จนเป็นเหตุให้สัญญาจ้างนั้นถูกยกเลิกทันทีและโดยอัตโนมัติ กล่าวโดยสรุปวัตถุประสงค์ของกฎหมายแรงงานใหม่ของยูเออีคือเพื่อสร้างความโปร่งใสและความชัดเจนในสิทธิและหน้าที่ทั้งของลูกจ้างและนายจ้าง และการปรับปรุงกฎหมายนี้ยังเป็นการให้การคุ้มครองในวงที่กว้างขึ้นแก่คนงานที่เดินทางมาทำงานในยูเออีและผู้ที่กำลังจะออกจากงานที่ทำอยู่ 

(ที่มาจาก http://7days.ae/uae-employment-law-changing-2016/78622 ลงวันที่ 7 ม.ค. 59)

        สรุปสาระสำคัญของกฎหมายที่มี การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ

        1.การกำหนดให้นายจ้างต้องขอวีซ่าใหม่ในกรณีต่างๆ

        2.นายจ้างและลูกจ้างต้องลงนามในสัญญาจ้างแล้วยื่นต่อกระทรวงแรงงานก่อนจึงจะสามารถได้รับอนุญาตให้เข้าเมือง (จากเดิมที่ลูกจ้างเข้ามาแล้วมาทำสัญญาที่กระทรวงแรงงานภายหลัง) และสัญญาจ้างที่ลงนามแล้วจะไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ เว้นแต่กระทรวงแรงงานเห็นชอบ ซึ่งมาตรการนี้จะสามารถแก้ปัญหาการทำสัญญาจ้างสองฉบับได้

        3.การยกเลิกสัญญาจ้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถกระทำได้ โดยต้องบอกล่วงหน้าหนึ่งถึงสามเดือนจากเดิมหนึ่งเดือน (เว้นแต่สาเหตุแห่งการยกเลิกเป็นไปตามมาตรา 120) และฝ่ายที่ขอยกเลิกต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายตามที่ ตกลงกันไว้ ข้อกำหนดนี้ใช้บังคับทั้งกับนายจ้างและลูกอย่างเท่าเทียมกัน และกรณีหากลูกจ้างไม่ได้รับการปฏิบัติตามกฎหมาย/สัญญาจ้าง ลูกจ้างสามารถขอยกเลิกสัญญาจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยการยกเลิกสัญญาจ้างก่อนกำหนด

         ผลกระทบต่อแรงงานต่างชาติและแรงงานไทย

         ดังที่เจตนารมณ์ของการปรับปรุงกฎหมายแรงงานของยูเออีที่ระบุไว้ว่ากฎหมายใหม่มุ่งที่ลดความตึงเครียดและสร้างความชัดเจนและเสริมสร้างให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน กฎหมายนี้จึงเป็นผลดีต่อแรงงานต่างชาติรวมทั้งแรงงานไทย ในเรื่องความสะดวกในการขอวีซ่าใหม่ ซึ่งกระทรวงแรงงานได้ออกมาเป็นมาตรการที่ชัดเจน นอกจากนี้ในเรื่องของสัญญาจ้างที่กำหนดให้คนงานจะต้องลงนามในสัญญาจ้างให้แล้วเสร็จก่อนและนายจ้างส่งให้กระทรวงแรงงานพิจารณาจึงจะสามารถนำคนงานเข้ามาทำงานได้ ในส่วนของคนงานไทยได้ประชาสัมพันธ์ให้นายจ้างนำสัญญาจ้างมาให้ฝ่ายแรงงานฯ ตรวจสอบก่อนที่จะส่งให้คนงานลงนามเพื่อให้อัตราค่าจ้างเป็นไปตามที่กระทรวงแรงงานของไทยกำหนด และเมื่อคนงานเดินทางเข้ามาแล้วจะไม่มีการทำสัญญาฉบับใหม่ทำให้แก้สามารถแก้ปัญหาการทำสัญญาสองฉบับได้ ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อคนงานทำสัญญาจ้างในประเทศของตนเองแล้ว เมื่อเดินทางมาถึงนายจ้างจะพาคนงานมาทำสัญญาฉบับใหม่กับกระทรวงแรงงาน โดยที่ข้อความในสัญญาจ้างทั้งสองฉบับอาจไม่ตรงกัน  ทั้งนี้ตามกฎหมายใหม่สัญญาที่ทำก่อนหน้าจะไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ เว้นแต่เป็นการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่คนงานและการแก้ไขต้องได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงแรงงานก่อน


1204
TOP